1. เมื่อข้าวย ากหมากแพง ราคาพืชผลต กต่ำ
ผู้ใหญ่ก็เดื อดเนื้ อร้ อนใจว่าเ งินหาย าก ของขายไม่ได้งานไม่มีทำ แล้วจะ
เอาอะไรเลี้ยง ปากเลี้ยงท้องครอบครัวแต่เด็ ก ๆ
อย่ างเราไม่สนใจอะไรหรอก เพราะไม่รู้อะไรทั้งนั้นหิวก็กลับไปกินข้ าวบ้าน
ที่บ้านไม่มีอะไรกิน ก็ไปกินข้าวบ้านเพื่อน บ้านเพื่ อนไม่มี ก็ไปอาศัยกินข้าวที่วัด
ไม่เคยรู้หรอก อดย ากเป็นอย่ างไร
2. หน้าหนาว ถ้าหนาวมาก ผู้ใหญ่จะกลัวหนาว
ว่าจะเอาอะไร มาห่มกันหนาว แต่เด็ ก ๆ อย่ างเรากลับดีใจที่จะได้สุมไ ฟเล่นกัน
หาอะไรเอามาปิ้งมาย่ าง มาเผากินเล่น กันหน้ากองไฟ และได้หาเหตุที่จะ
ไม่ต้องอาบน้ำ ตอนเย็นอีกด้วย
3. ฤดูน้ำหลาก ที่ผู้ใหญ่ต กอกต กใจกันนักหนา บางคน
ร้องห่มร้องให้ เพราะท รัพย์สินไร่นาเสี ยหายแต่วัยเด็ กของเรา ดี อกดีใจ จนเนื้ อเต้น
เพราะมีน้ำให้มาเล่นถึง หัวบันไดบ้าน ชนิดสนุก กันได้ทั้งวัน
4. ฝนแล้ง ผู้หลักผู้ใหญ่สมัยก่อนกลัว จะไม่มีน้ำทำไร่ทำนา
กลัวจะไม่ มีน้ำอาบน้ำกิน และกลัวอีกส าร พัดกับฝนแล้งแต่เด็ ก ๆ อย่ างเรา
ก็สนุกไปกับ การได้เล่นสนุกได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกลัวเ ฉอะแ ฉะเพราะฝนต ก
เพราะทุ กที่แห้ง เล่นได้ทุ กที่
5. เมื่อฤดูร้อ นมาถึง ผืนดิ นแห้งผาก ลมที่พัดมาก็ร้อน
จนแทบหาที่อยู่ไม่ได้ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เรีย กร้องหาฝนฟ้าให้ต กลงมาด้วยพิธีกร รมต่าง ๆ
ส่วนเด็ ก ๆ อย่ างเราก็จับกลุ่ มไปหาห้วยหนองคลอ งบึงนอ นแช่เล่นกันได้ทั้งวัน
โดยไม่รู้หรอกว่า ร้อนนั้นเป็นอย่ างไร
6. เมื่อมีงานบุญ งานบวช งานส ารพั ดประเพณีใกล้ มาถึง
ผู้ใหญ่ก็วุ่นว ายกับการตระเตรียม ข้าวของเครี่องใช้ ของกินของทำบุญ ทำทานฯ
เพื่อเอาไปใช้ในกิจกร รมต่าง ๆ ตามประเพณี
ส่วนเด็ ก ๆ อย่ างเรา ก็แค่คิดว่าจะมีอะไรให้เราได้กิน ได้เล่นได้สนุก ได้ดูบ้าง ทั้งหนัง
กล างแปลง หมอลำ ลิเก ลำตั ด ดนตรี หนังตะลุงฯ
ขอบคุณที่มา : lamunlamai